วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Parts of Speech (พาร์ท ออฟ สปีช)


Parts of Speech (พาร์ท ออฟ สปีช)
ชนิดของคำในภาษาอังกฤษ แบ่งตามไวยากรณ์ มี 8 ชนิด

1 Noun - เนาน (คำนาม) คือคำที่ใช้เรียกชื่อ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่

2Adverb - แอด-เฝิบ (กริยาวิเศษณ์) คือคำที่ใช้ขยายกริยา คุณศัพท์ และกริยาวิเศษด้วยกัน
3Pronoun - พโร-เนาน (สรรพนาม) คือคำที่ใช้แทนคำนาม
4Preposition - พเรโพะสีฌ-อัน (บุรพบท) คือคำที่ใช้บอกความสัมพันธ์กับนาม หรือกริยา
5Adjective - แอจ-เอ็คทิฝ (คุณศัพท์) ใช้ขยายนาม หรือสรรพนาม
6Conjunction - คอนจังค-ฌัน (คำสันธาน) ใช้เชื่อมประโยค หรือคำ
7Verb - เฝิบ (กริยา) คือคำที่ใช้แสดงความเคลื่อนไหวของนาม หรือสรรพนาม
8 Interjection - อินเทอะเจค-ฌัน (คำอุทาน) ใช้เพื่อแสดงความรู้สึก เสียใจ หรือประหลาดใจ
1. Noun - นาว (คำนาม) คือคำที่ใช้เรียก ชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ คุณสมบัติ สถานการณ์ การกระทำ เช่น man แมน ผู้ชาย boy บอย เด็กผู้ชาย action แอ็คชั่น การแสดง happiness แฮบปิเน็ส ความสุข
Tong go to Chiangmai. (ทอง โก ทู เชียงใหม่)
ทองไปเชียงใหม่
Thong เป็นชื่อบุคคล
Chiangmai เป็นชื่อสถานที่ จึงจัดเป็นคำนาม
หากต้องการทราบรายละเอียดในเรื่องของ Noun โดยตรง โปรดคลิก <<
ที่นี่>>
2. Pronoun - โพรนาว (สรรพนาม) เป็นคำที่ใช้แทนนาม เพื่อไม่ต้องพูดซ้ำบ่อย ๆ
I (ไอ) ผม / ดิฉัน
You (ยู) คุณ / ท่าน
We (วี) เรา / พวกเรา
They (เด) พวกเขา
He (ฮี) เขา
She (ชี) เธอ
It (อิท) มัน
Tom drinks coffee after that he will go to school. (ทอม ดริ้ง ค็อฟฟี่ อาฟเทอร์ แธท ฮี วิล โก ทู สคูล)
ทอมดื่มกาแฟ หลังจากนั้นเขาก็จะไปโรงเรียน
เรานำ he มาใช้แทน Tom เพื่อจะได้ไม่ต้องเอ่ยชื่อทอมหลายครั้ง
3. Adjective - แอ็ดเจ็คทีฟ (คุณศัพท์) คำที่ใช้บรรยายคุณภาพของนาม หรือลักษณะของนาม เพื่อให้รู้ว่านามนั้นมีลักษณะดี หรือชั่ว สูงหรือต่ำ ดำหรือขาว เป็นต้น เช่น
A Clever boy can answer a difficult problem. (อะ เคลบเวอร์ บอย แคน อานเซอร์ อะ ดิฟฟิคัลท์ โพรเบิร็ม)
เด็กฉลาด ตอบปัญหายาก ๆ ได้
Clever และ difficult เป็นคำคุณศัพท์ ทำหน้าที่บอกลักษณะของนามคือ boy และ problem ว่ามีลักษณะอย่างไร ทำให้ได้รู้ลักษณะ หรือคุณภาพของนามเด่นชัดยิ่งขึ้น Adjective ถ้าไม่ศึกษาให้ละเอียด จะทำให้เกิดความสับสนกับ verb ได้
หากต้องการทราบรายละเอียดในเรื่องของ Adjective โดยตรง โปรดคลิก <<
ที่นี่>>
4. Verb - เวิร์บ (กริยา) คือคำที่ใช้แสดงความเคลื่อนไหวของนามสรรพนามบอกถึงการกระทำ หรืออาการต่าง ๆ ของนามเพื่อจะได้รู้ว่าในประโยคนั้นใครทำอะไร กริยาแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1) Principal Verb (กริยาแท้) คือกริยาสำคัญ หรือกริยาหลักในประโยค ถ้าขาดกริยาแท้แล้ว ประโยคจะไม่ได้ใจความสมบูรณ์
She speaks English. (ชี สปีค อิงริช)
หล่อนพูดภาษาอังกฤษ
Speak เป็นกริยาแท้ หรือกริยาหลักของประโยค เพื่อจะทำให้เราได้รู้ว่าประธานทำอะไร (ประธานคือ she-หล่อน ซึ่งมักจะอยู่ต้นประโยค)
2) Auxiliary Verb (กริยาช่วย) คือกริยาที่ทำหน้าที่ช่วยกริยาแท้ เพื่อให้ประโยคมีใจความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น มี 24 ตัวคือ
is, am, are / was, were
has, have / had
do, does / did
can, could
will, would, shall, should
may, might
must, ought to, used to, need, dare
หญิงอยากแสดงให้เห็นว่าพวกกริยาช่วย ควรจะใช้คู่กับประธานคำไหน ตามตารางข้างล่าง เช่น เราจะต้องใช้ I คู่กับ am หรือต้องใช้ We คู่กับ are
ประธาน
กริยาช่วย
I
am
was
have
do
did/can/could/
will/would/
shall/should/
may/might/must/
ought to/
used to/
need/dare
You
are
were
have
do
He
is
was
has
does
She
is
was
has
does
It
is
was
has
does
We
are
were
have
do
They
are
were
have
do
I will go to Japan next week. (ไอ วิล โก ทู เจแปน เน็คซ์ วีค)
ฉันจะไปญี่ปุ่นสัปดาห์หน้า
will ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย เพื่อจะทำให้เนื้อความในประโยคสมบูรณ์ขึ้น
Do you speak Thai? (ดู ยู สปีค ไทย)
คุณพูดภาษาไทยหรือ
do ทำหน้าที่ช่วยในการตั้งคำถาม เพราะในประโยคคำถามที่กริยาแท้ไม่ใช่ Verb to be (is, am, are-เป็น อยู่ คือ) จะต้องนำกริยาช่วยนำหน้าตัวประธาน เพื่อทำให้เป็นประโยคคำถาม



5. Adverb - แอ็ดเวิร์บ (กริยาวิเศษณ์) เป็นคำที่ใช้ทำหน้าที่ขยายกริยา (Verb) คุณศัพท์ (Adjective) หรือขยายกริยาวิเศษณ์ (Adverb) ด้วยกัน
ขยายกริยา
The old man walks slowly. (เดอะ โอนด์ แมน วอร์ค สโล-ลี่)
ชายแก่เดินอย่างช้า ๆ
ขยาย
คุณศัพท์
Manu is very strong. (มนู อีส เวฝ-รี่ สะตรอง)
มนูแข็งแรงมาก
ขยายกริยาวิเศษณ์ด้วยกัน
The train run very fast. (เดอะ เทรน รัน-ส เวฝ-รี่ ฟาส-ท)
รถไฟแล่นเร็วมาก



6. Preposition - พรีโพซิชั่น (บุรพบท) ใช้บอกถึงความเกี่ยวกันระหว่าง "นามกับ นาม" หรือ "นาม กับ กริยา"
A bird is on the tree. (อะ เบิร์ด อีส ออน เดอะ ทรี)
นกอยู่บนต้นไม้
She puts her bag under the table. (ชี พุท-ส เฮอ แบ็ก อันเดอร์ เดอะ เทเบิ้ล)
หล่อนวางกระเป๋าของหล่อนไว้ใต้โต๊ะ
On (ออน) และ Under (อันเดอร์) ทำหน้าที่เชื่อม หรือแสดงความสัมพันธ์ระหว่างคำหนึ่งกับอีกคำหนึ่งให้สัมพันธ์สอดคล้องกัน


7. Conjunction -คอนจังค์ชั่น (คำสันธาน) มีหน้าที่เชื่อมประโยคต่อประโยค หรือคำต่อคำให้มีความติดต่อกัน เช่น
He is sick so he goes to see a doctor. (ฮี อีส ซิ๊ค โซ ฮี โก-ส ทู ซี อะ ด็อกเตอร์)
เขาป่วย ดังนั้นเขาจึงไปหาหมอ
He comes and stays with me at home. (ฮี คัม-ส แอนด์ เสเตย์-ส วิท มี แอ็ท โฮม)
เขามา และอยู่กับฉันที่บ้าน



8. Interjection - อินเตอร์เจ็คชั่น (คำอุทาน) เป็นคำที่เปล่งเสียงออกมาลอย ๆ เพื่อแสดงความรู้สึกดีใจ เสียใจ ตกใจ ประหลาดใจ เช่น
Well done! (เวลล์ ดอน)
ทำได้วิเศษจริง ๆ
Poor! (พัวร์)
แย่จริง ๆ


ที่มา:http://www.geocities.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น